Sunday, January 18, 2015

Torrezno อาหารขึ้นชื่อของจังหวัด Soria (24 Dec 2014)

Torrezno คืออาหารขึ้นชื่อของ Soria ที่ไม่พบในเมืองอื่นของสเปน เป็นอาหารทานเล่นหรือทานคู่กับเบียร์ที่มีขายในบาร์หรือร้านอาหารของที่นี่ ลักษณะเป็นเหมือนแคบหมูบ้านเราแต่ที่พิเศษคือจะมีส่วนของเนื้อหมูในสัดส่วนที่มากกว่าแคบหมู และวิธีการทำก็ง่ายมากคือนำไปหมักกับเกลือนิดหน่อยแค่นั้นแล้วนำไปแขวนให้แห้ง เวลาจะทานก็แค่นำมาทอดในน้ำมันด้วยไฟอ่อนๆ ผลที่ได้เกินคาดครับเพราะมันทั้งนุ่มและมีรดชาติอร่อยมากทั้งๆ ที่หมักแค่เกลือเท่านั้น ด้านที่เป็นหนังจะกรอบ ส่วนด้านที่เป็นเนื้อจะนุ่มและไม่เค็มแม้แต่น้อย จริงๆ ที่ Soria ที่เค้าก็มีแคบหมูคล้ายกับบ้านเราและรดชาติก็ไม่ต่างกั

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่พอจะสรุปได้เกี่ยวกับคนสเปนที่ผมรับรู้ได้ (จากการมาเยียนที่นี่เป็นครั้งที่สาม) คนสเปนค่อนข้างเป็นคนเปิดเผย รักความสนุกสนาน เป็นมิตร มีไมตรีจิตร รักเพื่อนฝูง เป็นคนที่ทำงานหนัก แต่เวลาสนุกสนานก็เต็มร้อย (จนบางครั้งถูกมองจากประเทศในยุโรปอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศในยุโรปเหนือว่าเป็นชนชาติที่เกียจคร้านไม่ชอบทำงาน ข้อนี้ผมว่าไม่จริง)จุดนัดพบของคนที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นบาร์และร้านอาหารที่คุณจะพบเห็นคนสเปนชอบไปพบปะพูดสังสรรค์กันเป็นประจำ ในบาร์และร้านอาหารจะพบเห็นคนในทุกๆ วัยตั้งแต่เด็กอ่อน เด็กเล็ก วัยรุ่น คนหนุ่มสาว คนทำงาน และคนสูงวัย ทุกคนไปพบปะพูดคุยกัน ส่งอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องดื่มก็อาจจะเป็นเบียร์หรือ cocktail สั่งกันคนละไม่กี่แก้วก็กลับบ้าน ในเมืองเล็กๆ เช่นอัลมาซาน (almazánผู้คนทั้งเมืองรู้จักกันหมดเวลาเจอกันทุกคนก็ทักทายกันและถามสารทุกข์สุกดิบกันเป็นปกติ ดูแล้วเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นจริงๆ บรรยากาศภายในบาร์และร้านอาหารที่สเปนดีกว่าแต่ก่อนมากเพราะกฎหมายปัจจุบันไม่อนุญาตให้คนสูบบุหรี่ในร้านอาหารหรือบาร์ต่างๆ (เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อนทุกคนสามารถสูบบุหรี่ได้ทุกที่รวมถึงภายในบาร์และร้านอาหาร)หลายคนอาจจะเคยมาเยือนสเปนหรือบางคนอาจจะไม่เคยมาเยือน ถ้าหากยังไม่เคยมาก็จงรู้ซะว่าคนที่นี่เค้าทานอาหารกลางวันกันประมาณบ่ายสองหรือบ่ายสามโมงเย็นและทานอาหารเย็นอีกทีก็ตอนสามหรือสี่ทุ่ม ส่วนตอนเช้าจะทานตอนไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก (ตื่นเมื่อไหร่ก็ทานเมื่อนั้น) จำได้ว่าเมื่อประมาณสามปีที่ประมาณเดือนสิงหาคม (หน้าร้อนของที่นี่) ผมมาเยือนสเปนเป็นครั้งแรก เครื่องบินถึงมาดริดประมาณบ่ายสองโมง ระหว่างเดินหาโรงแรมที่จองไว้ก็พยายามด้อมๆ มองๆ หาห้าง คิดว่าเผื่อหิวจะได้เดินเข้าไปซื้ออะไรมาตุนสักหน่อย ปรากฎไม่มีร้านไหนเปิดเลย มารู้อีกทีก็ตอนเพื่อนบอกว่าร้านค้าต่างๆ ปกติจะเปิด 2 เวลา ประมาณ 10-14 น. และเปิดอีกทีเวลา 17-20 น. ส่วนร้านอาหารจะเปิดประมาณ 13-16 น. และเปิดอีกทีตอน 20-23 น.

ปกติในช่วงหน้าร้อน ที่สเปนอากาศจะร้อนมากโดยเฉพาะพื้นที่ทางใต้ถึงตอนกลางประเทศ ดังนั้นตอนกลางวันคนสเปนจะปิดบ้านอยู่ภายในบ้านไม่ออกไปไหน และส่วนใหญ่จะงีบหลับในเวลากลางวัน (siestaร้านค้าต่างๆ ก็ปิดหมด เวลามาเที่ยวก็ต้องวางแผนให้ดีในเรื่องอาหารการกินปล. หากคุณเป็นคนต่างถิ่นก็ไม่ต้องกังวล เพราะคนที่นี่เป็นมิตรและอยากทำความรู้จักกับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว เวลาผมเดินเข้าไปในบาร์ในเมืองเล็กๆ เช่นอัลมาซาน ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่จะมีคนมองมาที่ผมทุกครั้ง เพราะที่นี่ไม่ค่อยในนักท่องเที่ยวหรือคนต่างถิ่นมาเยือนสักเท่าไห่ อย่างไรก็ตามอุปสรรคด้านภาษาไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของกับสื่อสารกับคนที่นี่ แต่ถ้าคุณมีเพื่อนที่พอจะพูดภาษาอังฤกษได้ก็จะเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้คุณได้เรียนรู้ความเป็นอยู่ วิถีชีวิต และขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมของคนที่นี่ได้ดียิ่งขึ้น 
รูปร่างหน้าตาของ Torrezno 

บรรยากาศแบบชนบทของสเปน (5 January 2015)

มีอยู่วันหนึ่งหลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็ตัดสินใจหยิบกล้องถ่ายรูปและกล้องสองตาแล้วพากันขับรถเพื่อออกไปเดินดูบรรยากาศในเขตชนบทของสเปน ระหว่างทางที่เดินออกไปนั้นก็บังเอิญได้เจอกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกแดง (Red fox, Vulpes vulpesผู้น่าสงสารนอนตายอยู่ข้างถนนใกล้ๆ กับคลองชลประทาน ไม่แน่ใจว่าหนาวตายหรือโดนยาเบื่อกันแน่ แต่ที่แน่ๆ อุณหภูมิของสเปนที่อยู่ทางตอนเหนืออากาศค่อนข้างหนาว (แม้จะไม่ค่อยเจอหิมะ) อุณหภูมิมักจะติดลบในช่วงกลางคืน น้ำก็กลายเป็นน้ำแข็ง 


หลักกิโลเมตรที่ 0 ของสเปน (4 Jan 2015)


หลักกิโลเมตรที่ 0 ของสเปนนี่เค้าเริ่มกันที่จัตุรัสแห่งนี้ที่ชื่อว่า Puerta del Sol (หลักกิโลเมตรที่ 0 ของประเทศไทยอยู่ที่หัวมุมถนนดินสอใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย) จัตุรัสแห่งนี้ในช่วงวันสุดท้ายของปีคือคืนวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ชาวมาดริดส่วนใหญ่จะออกจากบ้านแล้วพากันมาเฉลิมฉลองวันปีใหม่กัน ณ ที่แห่งนี้ พอถึงเวลาเที่ยงคืนเป๊ะ จะมีการลั่นระฆังเพื่อบอกเวลา (มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ) เป็นจำนวน 12 ครั้งติดต่อกัน ในช่วงของการลั่นระฆังนั้นสิ่งที่ชาวสเปนจะกระทำกันคือเค้าจะทานองุ่นทีละลูกเมื่อได้ยินเสียงระฆังดัง 1 ครั้งจนครบจำนวน 12 ลูก ที่ตลกคือผมเข้าใจว่าจะมีเวลาเคี้ยวและกลืนองุ่นทีละลูกด้วยความสบายใจแต่ที่ไหนได้เสียงระฆังที่ลั่นนั้นถี่จนไม่มีเวลาเคี้ยว สุดท้ายองุ่นเต็มปากแทบสำลัก เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ สอบถามคนที่นี่ว่าทำไมต้องทานองุ่น และทำไมต้องเป็นจำนวน 12 ลูก ก็ยังไม่ได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจ คำตอบที่ได้คือมันเป็นธรรมเนียมของคนที่นี่ จริงๆ แล้วชาวอิตาเลียนก็มีประเพณีคล้ายๆ กันกับชาวสเปนเพียงแต่เค้าจะทาน lentils แทนองุ่นครับ

เที่ยวภูเขาหิมะและทะเลสาบสีดำ ณ Laguna negra (1 January 2015)

ชมตลาดสดที่เมืองเล็กอัลมาซาน (Almazán) ประเทศสเปน (31 Dec 2014)

เวลาไปเที่ยวที่ไหนๆ ผมมักจะหาโอกาสไปเดินดูตลาดกลางแจ้งเพื่อสำรวจอาหารการกินของคนในที่นั้นๆ เป็นประจำ ไหนๆ ก็ชอบพูดเรื่องอาหารการกินอยู่บ่อยๆ เดี๋ยวจะหาว่าผมโม้ อาหารที่นี่มีหลากหลายมากกว่าที่สวีเดนจริงๆ นะ บางอย่างก็หาไม่ได้เลยในสวีเดน บางอย่างก็พอจะหาได้แต่ต้องใช้ความพยายามสักหน่อยและที่สำคัญราคาก็แพงกว่าที่สเปนเกินครึ่ง 


บรรยากาศของตลาดนัดซึ่งมีทุกวันอังคาร ณ เมืองอัลมาซาน (Almazánประเทศสเปน

ของหมักดองชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นแตงกวา (Cucumber) และมะกอกชนิดต่างๆ ซึ่งมะกอกชนิดต่างๆ นี่แหละเหมาะกับการทำสลัดเสียจริงๆ คนที่นี่บริโภคมะกอก (Olive) และน้ำมันมะกอก (Olive oil) กันเยอะจริงๆ เพราะประเทศสเปนปลูกเองได้ โดยพื้นที่ที่ปลูกกันเยอะก็คือพื้นที่ทางใต้ตามแนวชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Sea)
Lentils หรือถั่วชนิดต่างๆ ครับ เวลาขายก็ชั่งขายหน่วยเป็นกิโลกรัมเหมือนบ้านเรา คนที่นี่นิยมซื้อไปทำซุปถั่ว

ด้านซ้ายมือคือผลวอลนัท (Walnutและด้านขวามือคือผลอัลมอนด์ (Almondคนที่นี่ซื้อมากระเทาะเปลือกออกและนิยมทานกินในช่วงฤดูหนาว 
อาร์ติโช๊ค (Artichoke) ส่วนที่นำมาต้มทานคือส่วนของดอกช่อ (Inflorescence) ก่อนที่ดอกจะบาน ส่วนมากนิยมนำมาต้มรับประทานโดนตรงหรือต้มซุปกับเนื้อสัตว์ก็อร่อยดี
หอยทากบก (Land snailsชนิด Helix aspersa ซึ่งชาวสเปนนิยมนำมาประกอบอาหารและรับประทานเหมือนหอยขม รสชาติก็เหมือนหอยขมบ้านเรา คนที่นี่ไม่นิยม รับประทานทั้งตัวแต่จะทานเฉพาะแค่ส่วนของเท้า (foot part) และทิ้งส่วนของอวัยวะภายใน
ลูกทับทิม (Pomegranate: Punica granatum) ก็มีขาย น่าทานทีเดียวครับ
ด้านซ้ายมือจริงๆ ทั้งรูปร่างและรสชาติก็ไม่ต่างจากน้อยหน่า (Custard apple) ของบ้านเรา (ภาษาไทยเราน่าจะเรียกว่าน้อยโหน่ง) ส่วนด้านขวามือคือลูกพลับ (Persimmon)
มะกอกฝรั่ง (Olive) ดอง มีทั้งที่ดองทั้งเมล็ดและเอาเมล็ดออกแล้ว มะกอกที่นี่มี 2 ประเภทคือมะกอกสีดำ (Black olive) และสีเขียว (Green olive) 
Romanesco broccoli ไม่เคยซื้อมาทานซักสี เจอที่ตลาดสดที่นี่เลยถ่ายรูปมาฝากครับ