อังการา (Ankara = ภาษาอังกฤษ) หรือที่ชื่อเดิมเรียกว่า Ancyra และ Angora เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐตุรกี มีประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองมีจำนวนทั้งสิ้น 4,587,558 (ข้อมูลปี ค.ศ. 2014) ถ้ารวมประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกเมืองด้วยก็มีจำนวนประมาณ 5,150,072 คน กรุงอังการาถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเมืองอิสตันบูล (Istanbul) ของประเทศตุรกี กรุงอังการาเป็นศูนย์กลางการปกครองของผู้นำประเทศคนแรกคือท่านประธานาธิบดี Mustafa Kemal Atatürk หรือ Atatürk’s headquarters ตั้งแต่ปีค.ศ. 1920 และได้ก่อตั้งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐตุรกีนับตั้งแต่การก่อตั้งประเทศในปีค.ศ. 1923 แทนเมืองอิสตันบูลหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman Empire) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากรุงอังการาก็กลายเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ การศึกษา และอุตสาหกรรมที่สำคัญของตุรกี
กรุงอังการาเป็นถิ่นกำเนิดของสัตว์
3 สายพันธุ์ที่เป็นมีชื่อเสียงไปทั่วโลก
คือ
1. The Turkish Angora หรือแมวอังกอรา (Ankara cat = ภาษาอังกฤษ, Ankara kedisi = ภาษาตุรกี)
เป็นแมวสายพันธุ์โบราณที่พบเฉพาะในพื้นที่ตอนกลางของอนาโตเลีย (central Anatolia) เท่านั้น
ลักษณะเด่นของแมวสายพันธุ์นี้คือมีขนยาวสีขาว ตาสีฟ้า สีเขียวหรือสีเหลืองอำพัน
บางทีตาสองข้างมีสีต่างกันก็มีหลายตาข้างหนึ่งมีสีฟ้าและตาอีกข้างมีสีเขียวหรือสีเหลืองอำพัน
ใบหูค่อนข้างใหญ่และเรียวแหลม (รูปภาพ)
2. กระต่ายอังกอรา (Angora rabbit = ภาษาอังกฤษ, Ankara tavşanı = ภาษาตุรกี)
ลักษณะเด่นคือมีขนยาว นุ่มสีขาวปุกปุย (รูปภาพ)
3. แพะอังกอรา (Angora goat = ภาษาอังกฤษ, Ankara keçisi = ภาษาตุรกี) มีขนสีขาวหรือดำเงาไปจนถึงสีเทาหรือสีเงิน
โดยขนที่ได้จากแกะอังกอราเรียกว่าโมแฮร์ (Mohair) ขอดีของแพะอังกอราคือสามารถตัดขนเพื่อผลิตเส้นใยโมแฮร์ได้
2 ครั้งต่อปี ไม่เหมือนกับแกะที่สามารถเส้นไยได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น
คุณสมบัติของเส้นใยโมแฮร์คือสามารถย้อมติดสีได้ดี ยืดหยุ่น คงทน ไม่ติดไฟง่าย
และให้ความอบอุ่นในฤดูหนาวแต่ระบายความร้อนได้ดีในฤดูร้อน
ทำให้มีราคาแพงกว่าเส้นใยที่ได้จากขนแกะ (รูปภาพ)
หน้าตารถขนส่งสาธารณะในกรุงอังการา
AnatolianCivilization Museum ในกรุงอังการาซึ่งเป็นพิพิธพรรณที่ไม่ใหญ่เหมือนที่อื่นๆ
แต่มีตัวอย่างที่แสดงในแกเลอรี่มากมายจนเคยได้รับรางวัลชนะเลิศพิพิธพรรณดีเยี่ยมแห่งยุโรปมาแล้ว
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกวัน ค่าเข้าชมแค่ 15 TRY (ประมาณ 170 บาท) และเช่าเครื่องบรรยายหรือ Audio
Tour (มีหลายภาษารวมถึงภาษาอังกฤษ)
อีก 5 TRY (ประมาณ 60 บาท) เท่านั้น
Anıtkabir หรืออนุสรณ์สถานหลุมฝังศพของท่าน Mustafa Kemal Atatürk ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกและรัฐบุรุษของตุรกี
The
Kocatepe Mosque เป็นสุเหร่าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงอังการา
ภายในจุคนได้ถึง 24,000
คน สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1967-1987
เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญที่สามารถมองเห็นได้ในทุกทิศทางในกรุงอังการา สถาปัตยกรรมเป็นแบบ Neo-classical
Ottoman หลังคาเป็นรูปโดมมีความสูง
48.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 25.5 เมตร มีหอ Minaret จำนวน 4 หอ ตั้งอยู่ทั้ง 4 มุมของสุเหร่า
ความสูงของหอ Minaret แต่ละอันมีความสูงถึง 88 เมตร
หนึ่งในหลายๆ
ร้านที่ขายของที่ระลึกในกรุงอังการาซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ทำด้วยมือ
ฝีมือค่อนข้างปราณีต รับรองว่าจะต้องเป็นที่ถูกอกถูกใจของคุณผู้หญิงส่วนใหญ่
กาแฟสไตร์ตุรกีรสชาติเข้มค้นได้ใจทีเดียว
อารมณ์เหมือนดื่มกาแฟเอสเปรสโซ
ที่สำคัญดื่มเสร็จกากกาแฟที่เหลือในถ้วยถ้าคว่ำบนจานรองกาแฟแล้วเปิดออกดูรูปร่างของกากที่เห็นสามารถใช้ในการทำนายโชคชะตาได้
(เพื่อนตุรกีบอกมา)
ได้เวลาอาหารเย็นตามแบบฉบับของชาวตุรกีที่ทานขนมปังกับน้ำมันมะกอก
(บน) และด้านล่างภาษาเตอร์กีสเรียก Sarma เป็นเมนูเนื้อบดและห่อด้วยใบองุ่นราดด้วยซอสครีม
Middle East Technical University (METU) เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของตุรกี ส่วนอันดับโลกก็ดีกว่ามหาวิทยาลัยของไทย พื้นที่ของมหาวิทยาลัยค่อนข้างเป็น green campus ครับ นักศึกษาที่จบจากสถาบันนี้ประมาณร้อยละ 40 เรียนต่อในระดับบัณฑิตศึกษา และสาขาส่วนใหญ่จัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ
(ถ่ายเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖)
อาหารในมหาวิทยาลัย METU ที่อังคาราเค้าชั่งขายเป็นก ิโลกรัม อาหารมีหลากหลายให้เลือกตาม ปริมาณที่ผู้บริโภคต้องการ อาหารจึงไม่ค่อยเหลือทิ้ง
อาหารจานนี้รวมราคาน้ำผลไม้ รวมแล้วก็ราคา 11.82 TRY หรือประมาณ 160 บาท
หนังสือบนชั้นหนังสือของห้องสมุดที่มหาวิทยาลัย METU ที่เกี่ยวกับประเทศไทยก็มีน ะครับ แอบดีใจเล็กๆ
No comments:
Post a Comment