Again, I woke up early around 4.40 am in the morning. Instead of taking a shower and get ready, I checked and replied emails. Shit!!! I was running late. Took a shower and get dressed for 10 minutes and run... It was so early and felt like not fully woke up. I managed to catch the train to Copenhagen airport at 5.41 and got to the airport at 6.17, the counter of Norwegian Airline at Terminal 2 at 6.30, boarded at 6.50 and finally made my flight at 7.15.
I took me 45 minutes to get to Oslo and 45 minutes to connect the flight from Oslo to Stavanger (2-hour layover). The weather in Oslo was damn good – sunny and calm. The temperature in Stavanger was also perfect at 16 degrees C even though it was foggy, cloudy and slightly windy. The plane landed around 11.30. It took me just like 5 minutes from the arrivals to get to the airport bus (at the front of the airport). The round ticket from the Stavanger airport to city center was 180 NOK (valid for a year. Amazing!!!). The bus took about a half an hour to the city center, where it is close to my hotel, Thon Hotel Stavanger at Klubbgata 6 (ca. 5 minutes on foot).
There is nothing cheap in this country. The price for a single room at the hotel is more than 1,000 NOK but I got at 650 NOK a night as a promotion for the new opening. This price is worth to pay due to it includes a big breakfast and a small dinner per day. Wow!!!! Tempting!!!! Even the dinner is small, it made me stuffed because of lots of food i.e. pasta carbonara, salad, bread, fillet salmon, salmon soup, dessert, fruits, and coffee. One thing I did not like was that everything in the dining room is green i.e. carpet, tables, chairs, curtain, or even TV. It made me dizzy.
Stavanger
view from the sea
Restaurants,
pubs and shops in the old town of Stavanger
เมืองสตาแวนเงอร์ (Stavanger) มีสถานะเป็นเทศบาลเมืองและเป็นเมืองหลวงของเขตปกครองโรกาแลนด์ (Rogaland
County) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรสตาแวนเงอร์ (Stavanger
Peninsula) ติดกับทะเลเหนือ (North Sea) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศตามจำนวนประชากร ก่อตั้งเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1125 พร้อมๆ กับการก่อตั้งโบสถ์สตาแวนเงอร์ (The Stavanger
Cathedral) พื้นที่ใจกลางเมืองเป็นพื้นที่ที่ประกอบด้วยบ้านไม้โบราณที่ก่อสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 18-19 ถือได้ว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจะได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาล
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เมืองสตาแวนเงอร์ได้มีการเจริญเติบโตเป็นอย่างมากโดยมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอันเป็นผลมาจากมีการค้นพบน้ำมันนอกชายฝั่งทะเล ทุกวันนี้อุตสาหกรรมน้ำมันได้กลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของเมือง ทำให้เมืองนี้ได้ฉายาว่า “เมืองหลวงน้ำมันของนอร์เวย” หรือ “The Oil Capital of Norway” เป็นที่ตั้งของบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์คือบริษัท Statoilis และถือว่าเป็นบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศนอร์ดิก (Nordic region) อันประกอบด้วยประเทศเดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน และพื้นที่อารักขาอื่นๆ เช่นกรีนแลนด์ (พื้นที่อารักขาของเดนมาร์ก) หมู่เกาะฟาโรห์ (พื้นที่อารักขาของเดนมาร์ก) และหมู่เกาะโอแลนด์ (พื้นที่อารักขาของฟินแลนด์)
เดินทางมาสตาแวนเงอร์ครั้งนี้ได้มีโอกาสมาเยี่ยมคุณอาด้วย
จำได้ว่าไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้วเพราะเวลากลับบ้านที่เมืองไทยก็กลับไม่ตรงกันเสียที
ขอบคุณคุณอาสำหรับอาหารไทยอร่อยๆ (แม้ว่าจะเผ็ดไปสักหน่อย)
และขอบคุณที่ปั่นจักรยานชมเมืองเป็นเพื่อนในวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับสวีเดนครับ
ปั่นจักรยานสนุกดีครับ
ภูมิประเทศของเมืองสตาแวนเงอร์มีลักษณะเป็นเนินเขาสูงๆ ต่ำเป็นระยะ
จักรยานก็ต้องดีหน่อยเวลาปั่นจะได้ไม่เหนื่อย
ขาไปก็เพลิดเพลินดีๆแต่ขากลับนี่ซิจักรยานผมดันรั่ว
เลยต้องเดินกลับทั้งอาและหลานเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร
เหนื่อยเอาการทีเดียว
Sverd
I fjell หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษคือ “Swords
in Rock” หรือถ้าแปลเป็นภาษาไทยคือ “ดาบในหิน” เป็นอนุเสาวรีย์ที่รำลึกถึงสงคราม Battle of
Hafrsfjord ที่เกิดขึ้นในปี
ค.ศ. 872 เมื่อ Harald
Fairhair ได้รวบรวมไพร่พลชาวนอร์เวย์และก่อตั้งประเทศใหม่เป็นรัฐอิสระ
และเปลี่ยนชื่อประเทศใหม่เป็นประเทศนอร์เวย์ในปัจจุบัน และสถาปนาตัวเองเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของนอร์เวย์ อนุเสารวีย์แห่งนี้มีลักษณะเป็นดาบทำด้วยโลหะบรอนซ์
3 ฝักปักตั้งตรงอยู่ในหินสูง 10 เมตร บริเวณเนินหินที่บริเวรฟยอร์ด Hafrsfjord
โบสถ์สตาแวนเงอร์ (Stavanger
Cathedral) หรือภาษานอร์วีเจียนเรียกว่า Stavanger domkirke
เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศนอร์เวย์และเป็นที่อยู่ของพระตำแหน่งสูงสุดที่ทำหน้าที่ปกครองพระทั้งหมดในเมืองสตาแวนเงอร์
น่าเสียดายวันที่ผมเยี่ยมพื้นที่ด้านหน้าปิดซ่อมแซมเลยไม่ได้ภาพมาฝาก
No comments:
Post a Comment