Monday, August 22, 2016

เมืองปอมเปอี: เมืองที่ล่มสลายจากภูเขไฟระเบิด

ภูเขาไฟวีซูเวียส (Mt. Vesuvius) ที่มองเห็นจากเมืองปอมเปอีที่ถูกทำลายจากการระเบิดของมันเมื่อปี ค.ศ. 79

ปอมเปอี (Pompeii) เป็นเมืองโรมันโบราณใกล้กับเมืองเนเปิลส์ (Naples) ของอิตาลีในปัจจุบัน ตั้งอยู่แคว้น Campania ซึ่งเป็น 1 ใน 20 แคว้นของอิตาลี (เมืองหลวงของแคว้นคือเมืองเนเปิลส์) ในอดีตสมัยยุคโรมันเมืองปอมเปอี เมืองเฮอคูลาเนียม (Herculaneum) และพื้นที่โดยรอบได้ถูกทำลายสร้างและถูกฝังอยู่ภายใต้เถ้าถ่านสูงถึง 6 เมตรที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟวีซูเวียส (Mount Vesuvius) เมื่อปี ค.ศ. 79

นักวิจัยหลายคนเชื่อว่าเมืองแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อ 6 หรือ 7 ร้อยปีก่อนคริสต์ศักราชโดยชาว Osci หรือ Oscans อยู่ภายใต้การปกครองของกรุงโรมเมื่อ 4 ร้อยปีก่อนคริสต์ศักราช และถูกยึดครองและกลายเป็นอาณานิคมของชาวโรมันเมื่อ 80 ปีก่อนคริสตกาลหลังจากที่เข้าร่วมกับกลุ่มก่อจลาจลเพื่อต่อต้านสาธารณรัฐโรมัน (Roman Republic) แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนการปะทุของภูเขาไฟวีซูเวียสในอีก 160 ปีต่อมา มีหลักฐานว่าเมืองปอมเปอีมีประชากรอาศัยอยู่ราว 11,000 คน เมืองแห่งนี้ได้ถูกพัฒนาอย่างมาก มีระบบส่งน้ำที่ซับซ้อน (Complex water system) มีการก่อสร้างอัฒจันทร์ (Amphitheatreโรงเรียน (Gymnasiumและท่าเรือ (Portเป็นต้น การประทุของภูเขาไฟในครั้งนั้นได้ ได้คร่าชีวิตคนที่อาศัยอยู่ในเมืองปอมเปอี และเมืองใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก และศพที่เสียชีวิตได้ถูกฝังใต้เถ้าถ่านของภูเขาไฟ

หลักฐานเกี่ยวกับการทำลายล้างครั้งนั้นได้มาจากการบันทึกของผู้ที่รอดชีวิตที่ชื่อว่า Pliny the Younger จากบันทึกเค้าได้เล่าว่าเห็นการประทุของภูเขาไฟจากระยะไกล และได้เห็นการชีวิตของลุงของเค้าคือ Pliny the Elder (ซึ่งเป็นพลเรือเอกของกองทัพโรมันในขณะนั้น) จากการที่พยายามช่วยชีวิตชาวเมืองจากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด พื้นที่ประสบภัยพิบัตินี้ได้หายสาปสูญไปประมาณ 1,500 ปี จนกระทั่งได้มีการค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1599 และมีการค้นพบเพิ่มเติมในอีก 150 ปี ต่อมาโดยวิศกรชาวสเปนที่ชื่อ Rocque Joaquin de Alcubierre ในปี ค.ศ. 1748

วัตถุต่างๆ ที่อยู่ใต้เถ้าถ่านภูเขาไฟยังอยู่ในสภาพเหมือนเดิมแม้เวลาจะผ่านมานานหลายศตวรรษเนื่องจากไม่มีออกซิเจนและความชื้น สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่มีการค้นพบทำให้เรา ได้ความเข้าใจเรื่องราวและวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี ในระหว่างการขุดค้นปูนพลาสเตอร์ได้ถูกนำมาใช้ในการหล่อแทนที่ในช่องว่างในชั้นเถ้าถ่านที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นร่างกายมนุษย์ เผยให้เห็นสภาพที่แท้จริงของบุคคลในช่วงเวลาที่เสียชีวิต ณ ขณะนั้น เมืองปอมเปอีถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมานานมากกว่า 250 ปี และถือได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอิตาลี โดยในปีหนึ่งๆ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวประมาณ 2.5 ล้านคน เมืองปอมเปอีได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก (World Heritage Siteจากองค์การยูเนสโก (UNESCOตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 เป็นต้นมา

ที่มา: Pompeii



No comments:

Post a Comment